เรียนรู้ภาษาพม่า มองตาเพื่อนบ้านรับ เออีซี

                   "อักษร ภาษาพม่า...เซ แปลว่า ตลาด...เซ-โหย่ง แปลว่า โรงพยาบาล...โอง-ตี แปลว่า มะพร้าว...เหล่เส่ะ แปลว่า สนามบิน...ปาน-ตี แปลว่า แอปเปิล ฯลฯ" หลากถ้อยคำหลายคำแปลที่พรั่งพรูออกจากปากอาจารย์สอนวิชาภาษาพม่าใน ห้องเรียนเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยนักเรียนรุ่นใหญ่หลายสิบชีวิต ผู้ใส่ใจขวนขวายเสาะแสวงหาความรู้ด้านภาษาของประเทศต่างๆ ในอาเซียน เพื่อเตรียมพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปีพ.ศ.2558 ในกิจกรรมอบรมภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน เช่น ภาษาพม่า ภาษามลายู ภาษาจีนกลาง ภาษาเวียดนาม และภาษาเกาหลี ภายในงาน"งานสร้างคน คนสู้งาน 2012 ปีแห่งการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน" ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25-26 พฤษภาคม ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน ซึ่งมีประชาชนสมัครเข้าอบรมจำนวนมาก
                    ในฐานะหัวเรือใหญ่ของการจัดงานครั้งนี้ นายประพันธ์ มนทการติวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันแรงงานไทยมีทักษะฝีมือเป็นที่ยอมรับของประเทศต่างๆ แต่มีจุดอ่อนในเรื่องของทักษะภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน ดังนั้นรัฐบาลและนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน จึงประกาศให้ปีนี้เป็น "ปีแห่งการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน" โดย กพร.จะดำเนินการยกระดับฝีมือแรงงานให้ได้มาตรฐานแรงงานแห่งชาติควบคู่ไปกับ การอบรมความรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน
                   รวมทั้งจัดอบรม 9 พฤติกรรม 9 ความสำเร็จให้แรงงานมีความขยัน อดทน มีวินัย ความรับผิดชอบและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่แรงงานไทยเข้าสู่เออีซีและรองรับการปรับขึ้นค่า จ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาทด้วย
                   นางนิดาวรรณ สุบรรณเสนีย์ นักวิเทศสัมพันธ์ ศูนย์อินโดจีนศึกษา วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งมาเป็นวิทยากรอบรมภาษาพม่า เล่าว่า ปัจจุบันประเทศพม่ามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เริ่มเปิดประเทศ ขยายการค้าและการลงทุนในประเทศและตามแนวชายแดน ทำให้คนรุ่นใหม่ ผู้ที่ประกอบอาชีพต่างๆ เช่น มัคคุเทศก์ รวมถึงสถานประกอบการที่มีลูกจ้างเป็นแรงงานพม่า ให้พนักงานระดับหัวหน้าซึ่งเป็นคนไทยมาเรียนรู้ภาษาพม่าที่ศูนย์อินโดจีนศึกษา เพื่อจะได้สั่งงานลูกน้องชาวพม่าได้ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
                    "ทุกวันนี้คนพม่า กัมพูชาฟังและพูดภาษาไทยได้ รู้เรื่องประเทศไทยเยอะ แต่คนไทยกลับไม่มีทักษะภาษา ไม่รู้เรื่องประเทศเพื่อนบ้านเลย ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่คนไทยต้องตระหนัก เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวรับเออีซีนั้น คนไทยควรเรียนรู้ด้านภาษาประเทศต่างๆ ในอาเซียนและเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ในการค้าและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน" อาจารย์นิดาวรรณ บอกถึงประโยชน์ของเรียนภาษาอาเซียน
                   เธอยังบอกอีกว่า การจะเรียนภาษาพม่าได้ดีจะต้องเปิดใจกว้างยอมรับก่อน รู้ว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร ซึ่งภาษาพม่ามี เสน่ห์ไม่น้อย เพราะตัวอักษรสวยงาม เป็นตัวกลมๆ อ่านเข้าใจง่าย แต่การเรียบเรียงประโยคต่างกับภาษาไทย ซึ่งภาษาไทยใช้หลักประธาน กริยาและกรรม เช่น ฉันกินข้าว แต่พม่าใช้หลักประธาน กรรมและกริยาเช่น ฉันข้าวกิน
                   น.ส.สิริลักษณ์ ปราชญ์ปัญญาธร เจ้าหน้าที่มัคคุเทศก์ บริษัทสไมล์พลัสฮอลิเดย์ จำกัด กรุงเทพฯ ซึ่งทำงานด้านนี้มานานกว่า 12 ปี บอกว่า มาเรียนภาษาพม่า เพราะมีเพื่อนเป็นชาวพม่า รู้สึกเสียเปรียบเพื่อนซึ่งพูดและฟังภาษาไทยได้ดี แต่ตนเองกลับไม่สามารถพูดและฟังภาษาพม่าได้ ทั้งๆ ที่ภาษาและวัฒนธรรมพม่าก็ใกล้เคียงกับไทย และเชื่อว่าอนาคตหลังเปิดเออีซี ประเทศไทยกับพม่าจะมีการติดต่อค้าขายกันมากขึ้น เนื่องจากพม่าเริ่มเปิดประเทศและมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมาก
                   "การรู้ภาษาพม่าเพิ่ม ขึ้นอีก 1 ภาษา นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ อิตาเลียนและเกาหลี ที่มีทักษะอยู่แล้ว เป็นประโยชน์ต่ออาชีพมัคคุเทศก์อย่างมาก เนื่องจากเมื่อรู้ภาษาพม่าดิฉัน ก็สามารถจะพานักท่องเที่ยว นักธุรกิจคนไทยไปเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจในประเทศพม่าได้อย่างคล่องตัว และต่อไปหากมีโอกาสจะเรียนรู้ภาษาลาวด้วย" สิริลักษณ์ บอกถึงเป้าหมายในการเรียน
                   เธอบอกทิ้งท้าย ด้วยว่า เชื่อว่าการเปิดเออีซีเกิดผลด้านบวกมากกว่าด้านลบและไม่กลัวว่ามัคคุเทศก์ จากประเทศอื่นๆ ในอาเซียนจะเข้ามาแย่งงานในไทย เพราะกฎหมายไทยห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในไทย และการที่มีทักษะภาษาต่างประเทศหลายภาษา ทำให้มั่นใจว่ามีงานทำแน่นอนและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพด้วย

หนังสือพิมพ์ คมชัดลึกออนไลน์ ปีที่ 11 ฉบับที่ 3880 วันจันทร์ที่ 04 มิถุนายน 2555

กลับหน้าหลัก