ความเป็นมาของผู้คนและดินแดนพนมสารคาม เป็นส่วนหนึ่งอย่างแยกไม่ได้จากประวัติศาสตร์และภูมิภาคอุษาคเนย์
(Southeast Asia) ที่มีชื่อเก่าแก่ว่า "สุวรรณภูมิ" เพราะพนมสารคามเป็นส่วนหนึ่งของลุ่มน้ำบางปะกง ริมอ่าวไทย ทางตะวันออกของที่ลาบลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภาคกลางของประเทศไทย และประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์อย่างแยกออกจากกันไม่ได้
อ่าวไทยยุคดึกดำบรรพ์
ราว 12,000 ปีมาแล้ว ทะเลอ่าวไทยมีขอบเขตกว้างขวางกว่าปัจจุบัน พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดจมอยู่ใต้ทะเลอ่าวไทย น้ำทะเลท่วมท้นล้นบริเวณที่ลาบลุ่มน้ำเจ้าพระยาลึกเข้าไปในแผ่นดินโดยรวมอย่างกว้าง ๆ ดังนี้
ทิศเหนือ ทะเลสูงขึ้นไปถึงบริเวณจังหวัดลพบุรี หรือเหนือขึ้นไปอีก ทิศตะวันตก ทะเลเว้าเข้าไปถึงบริเวณอำเภอเมืองและอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ต่ำลงมาที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐมต่ำลงมาที่อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และต่ำลงมาที่อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
ส่วน ทิศตะวันออก ทะเลเว้าเข้าไปถึงบริเวณจังหวัดสระบุรี จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรีและเว้าไปถึงอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
เหตุที่บริเวณที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นทะเล นักโบราณคดีและนักธรณีวิทยาอธิบายว่าเมื่อประมาณ 12,000 ปีมาแล้ว น้ำทะเลมีระดับสูงขึ้นมากเพราะน้ำแข็งละลาย ทำให้ท้องทะเลแถบอ่าวไทยมีขอบเขตกว้างขวางสูงขึ้นไปถึงลพบุรีหรือเหนือขึ้นไป แม่น้ำสายสำคัญ ๆ ที่ไหลลงทะเลจึงสั้นกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คือปากน้ำเจ้าพระยาจะอยู่บริเวณจังหวัดนคร-ชัยนาท ปากน้ำแม่กลองอยู่ทางจังหวัดนครปฐม (แม่น้ำท่าจีนยังไม่มี) ปากน้ำป่าสักอยู่ทางจังหวัดลพบุรี ส่วนปากน้ำบางปะกงอยู่างจัวหวัดนครนายก-ปราจีนบุรี เป็นต้น
ทะเลอ่าวไทยยุคดึกดำบรรพ์ที่กว้างขวางมิได้อยู่คงที่ เพราะแผ่นดินโดยรอบงอกออกไปเรื่อย ๆ ตามปรากฎการณ์ธรรมชาติ อันเป็นผลจากการทับถมของตะกอนหรือโคลนตมที่ล้นทะลักไหลมากับน้ำในแม่น้ำในแม่น้ำสายต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบอ่าวไทยยุคโน้น ครั้นนานเข้าก็กลายเป็นทะเลโคลนตม ขยายพื้นที่กว้างออกไปเรื่อย ๆ ช้า ๆ ตามธรรมชาติ ในที่สุดโคลนตมที่ถมทับกลับกลายเป็นดินดอนแผ่กว้างเป็นแผ่นดินสืบเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นอกจากจะถมทะเลให้เป็นแผ่นดินแล้ว โคลนตมจำนวนมหาศาลยังเป็นปุ๋ยธรรมชาติดีที่สุดที่ทำให้พื้นดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกข้าวในสมัยหลัง ๆ
เมื่อตะกอนจากแม่น้ำโดยรอบทะลักออกมาทับถมนานนับพันปี ในที่สุดอ่าวไทยก็ค่อย ๆ หดลงบริเวณที่โคลนตมตกตะกอนก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของผืนแผ่นดินใหญ่ ดั่งเห็นเป็นที่ราบลุ่มสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง เขตจังหวัดฉะเชิงเทราต่อเนื่องจังหวัดปราจีนบุรี - ชลบุรี ฯลฯ
|
|
ภาพถ่ายทางอากาศจำลองขึ้นใหม่ครั้งอ่าวไทยกว้างขวางกว่าปัจจุบัน บริเวณกรุงเทพฯ และที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยายังเป็นทะเล |
ภาพโมเสกจากดาวเทียม LANDSAT TM บริเวณที่ราบเจ้าพระยาตอนล่างจากอ่าวไทยขึ้นไปจนถึงจังหวัดชัยนาท สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มต่ำเคยเป็นทะเลมาก่อน มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านที่ที่ราบก่อนออกสู่ทะล บริเวณต่อเนื่องจากทะเลที่เห็นในภาพเป็นสีเข้มเน้นให้เห็นขอบที่ลุ่มซึ่งเป็น
แนวชายฝั่งทะเลมาก่อน ตำแหน่งเมืองโบราณอยู่บนส่วนที่เป็นแผ่นดินโดยรอบ
แนวชายฝั่งทะเล (ภาพและคำอธิบายจาก ห้วงอวกาศสู่พื้นแผ่นดินไทย. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาต,ิ 2534.) |
ชื่อ "บางปะกง" หมายถึงอะไร
บางปะกง มีต้นน้ำอยู่บริเวณที่ลุ่มดอนภายใน บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก มีลำน้ำสาขาเล็ก ๆ หลายสายไหลจากเทือกเขาใหญ่ ทางทิศเหนือเรียกลำน้ำนครนายก ลำน้ำประจันตคาม ฯลฯ ไหลไปรวมกันเรียกลำน้ำปราจีนบุรี แล้วลงลำน้ำบางปรกง ไหลออกอ่าวไทยทางจังหวัดชลบุรี
ฝั่งทะเลตะวันออก เป็นขอบอ่าวไทยด้านทิศตะวันออก มีหลายลุ่มน้ำ เช่น ลุ่มน้ำบางปะกง ลุ่มน้ำพานทอง ลุ่มน้ำระยอง ลุ่มน้ำประแส ลุ่มน้ำจันทบุรี ลุ่มน้ำตราด
บางปะกง มีชื่อเดิมว่าบางมังกง เป็นหมู่บ้านประมงชายงั่ง อยู่ปากน้ำปลายสุดออกอ่าวไทยเลยเรียกแม่น้ำทั้งสายตามชื่อชุมชน หมู่บ้านที่อยู่ปาน้ำว่าปากมังกง แล้วกร่อนเป็นบางปะกง
บาง เป็นคำร่วมเก่าแก่ของคนสุวรรณภูมิทุกเผ่าพันธุ์ หมายถึงทางน้ำเล็ก ๆ ที่ไหลเชื่อมกับทางน้ำใหญ่กว่า แล้วมีชุมชนตั้งอยู่ตรงปากทางน้ำที่เชื่อมกัน เรียกว่าบาง
ปะกง เป็นคำกร่อนจากคำเก่า เรียกปลาชนิดหนึ่งว่ามังกง (อาจเลียนเสียงและรูปจากมังกรอย่างเดียวกับ กุ้ง-กั้ง ฯลฯ แต่บางคนว่ากลายจากคำจีน) มีใช้เก่าสุดในโคลงกำสรวลสมุทร (ราว พ.ศ. 2025) มีชื่อ ปลามังกง ปลาทุกัง ปลาฉลาม ว่า "มังกงทุกังฉลามเห็นโห่"
นิราศเมืองแกลงของสุนทรภู่ ยังเรียกคำเต็มว่าบางมังกง เป็นชุมชนหมู่บ้านประมงชาวจีน (เจ๊ก) มีในกลอนว่า
ถึงหย่อมย่านบ้านบางมังกงนั้น ดูเรียงรันเรือนเรียบชลาสินธุ์
แต่ล้วนบ้านตากปลาริมวาริน เหม็นแต่กลิ่นเน่าอบตลบไป
เห็นศาลเจ้าเหล่าเจ๊กอยู่เซ็งแซ่ ปูนทะก๋งองค์แก่ข้างเพศไสย
เกเลเอ๋ยเคยข้ามคงคาลัย ช่วยคุ้มภัยปากอ่าวเถิดเจ้านาย
แผนที่แสดงลักษณะภูมิประเทศบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อหลายพันปีมาแล้ว ยังมีสภาพเป็น "ทะเลโคลนตม" กว้างขวางสูงขึ้นไปมากกว่าปัจจุบัน การตั้งหลักแหล่งชุมชนและบ้านเมืองยุคแรก ๆ อยู่ตามที่ตอนหรือขอบอ่าว ใกล้ชิดหรือติดกับทะเลโคลนตม (ปรับปรุงจาก ห้วงอวกาศสู่พื้นแผ่นดินไทย โดยสำนักคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ 2534)
|