13. อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
อำเภอพนมสารคามที่อยู่ปัจจุบันเริ่มมีขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2481 แต่ก่อนหน้านี้เคยตั้งอยู่ที่อื่น แล้วโยกย้ายเปลี่ยนแปลงตามลำดับ ดังนี้
1. สมัยรัชกาลที่ 3 เป็นชุมชนลาวอยู่บ้านท่าถ่าน ยังไม่เป็นเมืองชื่อพนมสารคาม
2. สมัยรัชกาลที่ 4 ยกบ้านท่าถ่านเป็นเมือง ชื่อเมืองพนมสารคาม ได้ชื่อตามเจ้าเมืองว่า พระพนมสารนรินทร์
3. สมัยรัชกาลที่ 5 เมืองพนมสารคามน่าจะย้ายจากบ้านท่าถ่าน ไปอยู่บ้านเมืองเก่าริมลำน้ำท่าลาด เพราะการปฏิรูประบบปกครองหัวเมืองเป็นมณฑลเทศาภิบาล มีมณฑลปราจีนบุรี รวมหัวเมืองตามลำน้ำบางปะกงเข้าด้วยกัน มีชื่อเมืองปราจีนบุรี, เมืองนครนายก, เมืองพนมสารคาม, และเมืองฉะเชิงเทรา แสดงว่าเมืองพนมสารคามต้องอยู่ริงลำน้ำท่าลาดที่บ้านเมืองเก่า
4. สมัยรัชกาลที่ 6 โปรดให้เปลี่ยนคำว่า เมืองเป็น จังหวัด และอำเภอ เมื่อ พ.ศ. 2459 เมืองพนมสารคาม เป็นอำเภอพนมสารคาม ขึ้นจังหวัดฉะเชิงเทรา (ตรงนี้ควรตรวจสอบหลักฐานอีก เพราะมีเอกสารบางแห่งว่าเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นอำเภอ เมื่อ พ.ศ 2472)
5. พ.ศ. 2481 ย้ายที่ทำการอำเภอพนมสารคามจากบ้านเมืองเก่า ไปตั้งอยู่ฝั่งซ้ายริมลำน้ำท่าลาด ที่บ้านท่าเกวียน มีตลาดและโรงเจอยู่ฝั่งขวา
6. พ.ศ. 250-? ไฟไหม้ตลาดบ้านท่าเกวียนครั้งใหญ่ เสียหายมาก เลยต้องย้ายมาสร้างใหม่ตามทางถนนสืบจนทุกวันนี้
สงครามเย็น- สงครามเวียดนาม-โลกาภิวัตน์
สงครามเย็นต่อเนื่องถึงสงครามเวียดนาม ระหว่างสงครามเวียดนา มีแคมป์ทหารอเมริกันมาตั้งอยู่บ้านท่าเกวียน และใกล้เคียง เขตอำเภอพนมสารคาม เพื่อสร้างถนนสายสัตหีบ-กบินทร์บุรี-โชคชัย (นครราชสีมา) เพื่อการสงคราม ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่ท้องถิ่นควรร่วมกันบันทึกไว้อย่างละเอียด
ความเติบโตของพนมสารคาม หลังสงครามเวียดนามเข้าสู่โลกาภิวัตน์ ที่ชาวพนมสารคามควรร่วมกันจัดแสดงด้วยรูปถ่ายและภาพเขียน รวมถึงสิ่งของบางอย่าง ด้วยสำนึกของเครือญาติพี่น้องพนมสารคามด้วยตนเอง เพื่อเติมเต็มประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของพนมสารคาม
อำเภอพนมสารคาม
เดิมอำเภอพนมสารคาม ตั้งอยู่ที่บ้านโพธิ์ใหญ่ มีอำเภอสนามชัยเขตเป็นสาขา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ยกทัพไปตีลาวและเขมร เจ้าพระยาบดินทร์เดชาได้กวาดต้อนชาวลาวและเขมรเข้ามาเป็นจำนวนมาก และกำหนดพื้นที่ให้อยู่เป็นหลักแหล่งพื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอพนมสารคามและอำเภอสนามชัยเขต เหตุนี้เองชุมชนดังกล่าวจึงหนาแน่นขึ้นเป็นลำดับ
ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราโชบายยกหมู่บ้านที่เป็นชุมชนหนาแน่นขึ้นเป็นเมือง จึงโปรดเกล้าฯ ให้ "ยกบ้านท่าถ่านเป็นเมืองพนมสารคาม" มีศาลากลางเมือง มีเรือนจำ มีเจ้าเมืองปกครอง พระพนมสารนรินทร์ เป็นเจ้าเมืองคนสุดท้ายก่อนที่จะยุบเป็นอำเภอพนมสารคาม บริเวณที่เป็นที่ตั้งเมืองพนมสารคาม ปัจจุบันเรียกว่า ตำบลเมืองเก่า (เพ็ญศรี ดุ๊ก และนารี สาริกะภูติ, 2529 : 16-17)
เมืองพนมสารคาม ลดฐานะจากเมืองเป็นอำเภอ ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พุทธศักราช 2472 ตั้งที่ทำการที่เดิม
ต่อมา พ.ศ. 2481 สมัยนายชวน สุริยจันทร์ เป็นนายอำเภอ ได้ย้ายที่ทำการมาตั้ง ณ บ้านท่าเกวียนหมู่ที่ 1 ฝั่งซ้ายของลำคลองท่าลาด ตำบลพนมสารคาม และ
พ.ศ. 2509 กระทรวงมหาดไทย ได้มีประกาศตั้งตำบลคู้ยายหมี ตำบลท่ากระดาน และตำบลท่าตะเกียบ แยกออกจากอำเภอพนมสารคาม เป็นกิ่งอำเภอสนามชัยเขต ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศตั้งตำบลดงน้อย ตำบลเมืองใหม่ และตำบลบางคา ออกจากอำเภอพนมสารคามเป็นกิ่งอำเภอราชสาส์น (สุนทร คัยนันท์, 2534 : 139)
พื้นที่อำเภอพนมสารคาม เคยปกคลุมไปด้วยป่าใหญ่ มีบริษัทได้สัมปทานทำป่าคลองท่าลาด ซึ่งเดิมเรียกแม่น้ำพนมฯ ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมล่องแพซุง ที่ได้จากป่าใหญ่ทั้งของเขตพนมสารคามและสนามชัยเขต ของป่าและไม้มีค่าเป็นสินค้าออกที่สำคัญ น้ำมันยางเป็นสินค้าสำคัญล่าสุด ตามด้วยไม้แดงจีน ไม้หอม และเร่ว (สุนทร คัยนันท์, 2534 : 139)
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงประมาณ พ.ศ. 2598 บริเวณนี้ก็ยังเป็นดินแดนที่สร้างความหวาดกลัวเรื่องความไข้และยาเบื่อ เพราะเป็นป่าดงดิบ ปัจจุบันป่าดังกล่าวถูกแผ้วถางไปจนหมดลักษณะดังกล่าว ทุกวันนี้จึงมีสภาพเป็นเพียงที่ราบสูง ประชากรมีอาชีพในการเพาะปลูกพืชไร่ ทำนา และทำสวน
อำเภอพนมสารคาม มีเขตติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสนามชัยเขต
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอราชสาส์น
ปัจจุบันอำเภอพนมสารคาม ประกอบด้วย 8 ตำบล คือ ตำบลพนมสารคาม ท่าถ่าน บ้านซ่อง หนองยาว เมืองเก่า เกาะขนุน หนองแหน และเขาหินซ้อน
(คัดจากหนังสือ วัฒนธรรม พัมฯาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดฉะเชิงเทราคณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมประเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสพระราชะพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542) |
แผนที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ฉะเชิงเทรา
ฉะเชิงเทรา มาจากภาษาเขมร 2 คำ คือ ฉทึง แปลว่า แม่น้ำ, ลำน้ำ ฯลฯ ออกเสียงเพี้ยนเป็น ฉะเชิง ส่วน เทรา มีผู้อธิบาย แปลว่า ลึก
เมืองฉะเชิงเทรามีชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรเก่าสุดอยู่ในบทพระไอยการตำแหน่งนายทหารหัวเมืองแผ่น ดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (ราว พ.ศ. 2000) ดังนี้
เมืองวิเสศฤาไชย เมืองฉะเชิงเทรา ขึ้นประแดงเสนาฎขวา
ออกพระพิบูรสงคราม เมืองนครนายก ขึ้นประแดงเสนาฏขวา
ออกพระอุไทยธานี เมืองปราจีนบุรี ขึ้นประแดงจุลาเทพซ้าย
|
พนมสารคาม (หรือ พนมสาลคาม)
พนมสารคาม เป็นชื่ออำเภอตั้งอยู่บ้านท่าเกวียน ริมลำน้ำท่าลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้จากนามเจ้าเมืองว่า พระพนมสารนรินทร ์ เป็นคำบาลี 3 คำ คือ พนม, สาร, นรินทร์
ชื่อพนมสารนรินทร์ เป็นคำบาลี 3 คำ คือ พนม , สาร , นรินทร์
พนม หมายถึง ป่า, ดง, ป่าไม้, ดงไม้ ฯลฯ มีรากคำจากบาลีว่า วน (อ่านว่า วะ-นะ)
สาร หมายถึง สำคัญ, ประเสริฐยิ่ง, แข็งแรง แก่นของไม้, ชั้นในสุด และส่วนแข็งที่สุด
คาม หมายถึง หมู่บ้าน, ชุมชน
นรินทร์ หมายถึง คนผู้มีอำนาจ ได้จากคำบาลีว่า นร (อ่านว่า นะ-ระ) กับ อินทร (อ่านว่า อิน-ทะ-ระ)
มีข้อสังเกตจากชื่อ พนมสารคาม ว่าแต่เดิมน่าจะให้สะกดว่า พนมสารคาม เพราะคำบาลี สาล (อ่านว่า สา-ละ) หมายถึง ต้นรัง หรือต้นยางก็ได้ (แต่นิยมเรียกทับศัพท์ว่าต้นสาละ) สอดคล้องกับภูมิประเทศบริเวณลำน้ำท่าลาดเต็มไปด้วยต้นยาง มีชื่อ เขาดงยาง เป็นพยาน แล้วได้ น้ำมันยาง จากต้นยางเป็นสินค้า ขณะเดียวกันก็เอาต้นยางมาเผาสุมเป็น ถ่าน ได้อีก ตรงตามที่ตั้งเมืองครั้งแรกว่า ท่าถ่าน |
ท่าลาด - ท่าเกวียน
ท่าลาด เป็นชื่อลำน้ำไหลจากป่าดงทางตะวันออกไปทางตะวันตกลงแม่น้ำบางปะกง ผ่านอำเภอพนมสารคาม
ชื่อเรียกท่าลาด มี 2 คำ คือ ท่า กับ ลาด
ท่า หมายถึงที่สำหรับขึ้น, ลง, จอด, พัก, เช่น ท่าเรือ, ท่ารถ ฯลฯ เมื่อเป็นกิริยาหมายถึง รอ, คอย, เช่น รอท่า, คอยท่า ฯลฯ
ลาด หมายถึง เท, เอียง, ปูหรือแผ่ให้ยาว มักเรียกบริเวณที่ลาดเอียงมีทางน้ำให้เรือแล่นเข้าออกได้ว่าลาด เช่น ลาดบ้านถ่าน, ลาดต้นโพธิ์, ลาดม่วงขาว, ลาดโคกปีบ ในอำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี, ลาดหลุมแก้ว ที่จังหวัดปทุมธานี, ลาดบัวขาว ในกรุงเทพฯ
ท่าเกวียน เป็นชื่อชุมชนที่ตั้งตัวอำเภอและตลาดพนมสารคาม อยู่ริมลำน้ำท่าลาด เคยเป็นที่ชุมนุมกองเกวียนจากที่ดอนขนสิ่งของมาลงเรือ แล้วแลกเปลี่ยนซื้อขายสิ่งของจากเรือไปหมู่บ้าน
ชื่อเรียกท่าเกวียน มี 2 คำ คือ ท่า กับ เกวียน
เกวียน หมายถึงพาหนะทางบก ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มี 2 ล้อ ใช้วัวหรือควายเทียมลกาขนข้าวและสิ่งของอื่น ๆ
อาคารประวัติศาสตร์ท้องถิ่นพนมสารคาม ในบริเวณโรงเรียนพนมสารคาม "พนมอดุลวิทยา" สถานที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นพนมสารคามตามฉบับร่าง
|
เรียบเรียงจาก
1. อารยธรรมชายฝั่งทะเลตะวันออก. ศรีศักร วัลลิโภดม. กรุงเทพฯ : มติชน, 2547.
2. สยามดึกดำบรรพ์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยสุโขทัย. ชาร์ลส์ ไฮแอม และรัชนี ทศรัตน์. กรุงเทพฯ : ริเวอร์ บุ๊ค จำกัด. 2542.
3. คนไทย มาจากไหน?. สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ : 2549.
4. ชาติพันธุ์สุวรรณภูมิ บรรพชนคนไทยในอุษาคเนย์. สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ : มติชน, 2547.
5. ประวัติศาสตร์สังคมและวัฒนธรรมสยามประเทศไทย. สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ : มติชน. 2547. |
|