ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นพนมสารคาม

   สุจิตต์ วงษ์เทศ

  5,000 ปีมาแล้ว พนมสารคามบางส่วนเป็นท้องทะเล
  4,000 ปีมาแล้ว มีคนตั้งชุมชนใกล้เคียงพนมสารคาม
  3,000 ปีมาแล้ว พนมสารคามยังไม่มีชุมชน
  หลัง พ.ศ. 1 พนมสารคามเป็นส่วนหนึ่งของ "สุวรรณภูมิ"
  หลัง พ.ศ. 500 พุทธ-พราหมณ์มาถึงสุวรรณภูมิแต่ยังไม่พบที่พนมสารคาม
  หลัง พ.ศ. 1000 แรกมีชุมชนบ้านเมืองที่พนมสารคาม
  หลัง พ.ศ. 1500 พนมสารคามเกี่ยวข้องกับขอมและการค้าโลก
  หลัง พ.ศ. 1700 พนมสารคามร่วงโรยแล้วรกร้าง
  พ.ศ. 2309 พระเจ้าตาก ผ่่านป่าดงพนมสารคาม
  พ.ศ. 2369 กวาดต้อน "ลาว" มาอยู่พนมสารคาม
  คนจีนในพนมสารคาม
  คนไทยในพนมสารคาม
  อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของเรากันเถอะ

  8. หลัง พ.ศ. 1700 พนมสารคามร่วงโรยแล้วรกร้าง

                       หลัง พ.ศ. 1700 บริเวณลุ่มน้ำบางปะกงเป็านที่ดอนมากขึ้นจากทะเลโคลนตมที่ถมทับ ส่งผลให้เส้นทางคมนาคมออกอ่าวไทยไม่คล่องต้องติดขัด บ้านเมืองเขตพนมสารคามกับที่อื่น ๆ เช่น เมืองศรีมโหสถ (ปราจีนบุรี) และเมืองพระรถ (ชลบุรี) ต้องร่วงโรยแล้วรกร้างกลายเป็นป่าดง
                       ผู้คนดั้งเดิมของบ้านเมืองทางพนมสารคามเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่อื่นซึ่งอุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินและทำมาค้าขายดีกว่า เช่น ทางชายฝั่งจังหวัดชลบุรี ที่มีเมื่องศรีพะโล (อำเภอบางปะกง จังหวัดชลบุรี) เติบโตขึ้นมาแทน แต่ทางลุ่มน้ำเจ้าพระยามีรัฐใหม่เติบโตขึ้น ชื่อ อโยธยาศรีรามเทพ(จะเป็นกรุงศรีอยุธยา ต่อไปข้างหน้า)

แรกมีอักษระไทยและคนไทย
                 
      หลัง พ.ศ. 1700 มีศาสนามวลชนแพร่หลายออกไปกว้างขวางคือ ศาสนาพุทธใช้ภาษาไทย กับ ศาสนาอิสลามใช้ภาษามลายู บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีรัฐเอกราชอย่างน้อย 2 แห่ง คือ รัฐละโว้-อโยธยา (ลพบุรี), รัฐสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี เป็นชื่อสืบเนื่องจากสุวรรณภูมิ) แล้วยังมีรัฐย่อย ๆ คือ รัฐเจนลีฟู (ชัยนาท), รัฐเพชรบุรี (เพชรบุรี) ฯลฯ
                       รัฐอโยธยาศรีรามเทพบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง สนับสนุนผลักดันให้เกิดรัฐสุโขทัย ขึ้นตอนบนบริเวณลุ่มน้ำยม - น่าน นับถือศาสนาพุทธเถรวาท ใช้ภาษาไทยเป็นภาษากลาง มีเครือข่ายถึงบริเวณสองฝั่งโขงที่เรียกภายหลังว่า ล้านช้าง-ล้านนา

แรกมีราชอาณาจักรสยาม
                       ครั้นหลัง พ.ศ. 1800 บริเวณอโยธยาศรีรามเทพนครเป็นศูนย์กลางการค้านานาชาติ โดยเฉพาะ สำเภาจีน จนเติบโตเปลี่ยนราชวงศ์และเปลี่ยนชื่อเป็นกรุงศรีอยุธยา ทำให้คนพื้นเมืองจากอีสารและสองฝั่งโขงเคลื่อนย้ายลงมาเป็นประชากรหนาแน่น แล้วมีอักษรไทยได้แบบจากอักษรขอม (เขมร) ใช้งานทางศาสนา-การเมือง แล้วสมมุติเรียกชื่อตนเองว่า "คนไทย" เป็นครั้งแรก ต่อมาชาวต่างชาติเรียกกรุงศรีอยุธยาว่าราชอาณาจักรสยาม ใช้ภาษาเขมรในราชสำนัก (จะเป็นราชาศัพทธต่อไปข้างหน้า)
                       ขณะเดียวกันก็ขยายเครือข่ายลงไปควบคุมรัฐเพชรบุรีกับรัฐนครศรีธรรมราชประชิดกับรัฐปัตตานีที่เป็นเอกเทศ

 

แผนที่แสดงชุมชนบ้านเมืองและรัฐบางแห่งที่สำคัญ หลัง พ.ศ. 1,700 หรือ ราว 800(+) ปีมาแล้ว ใน(สยาม)ประเทศไทย

 

                       หลัง พ.ศ. 2000 กรุงศรีอยุธยาราชอาณาจักรสยามมีนามเป็นทางการว่ากรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา (หมายถึงสืบจากทวารวดีของพระรามจากเมืองละโว้) แผ่อำนาจยึดครองรัฐสุโขทัยได้ทั้งหมดแล้วลดฐานะเจ้านายราชวงศ์สุโขทัยลงเป็นขุนนางให้ไปอยู่ใกล้ชิดในพระนครศรีอยุธยา แล้วเผชิญหน้ากับรัฐล้านนาต่อไปอีกนาน
                       ขณะเดียวกันก็แผ่อำนาจไปที่ราบสูงบริเวณลำน้ำมูล มีศูนย์กลางอยู่เมืองนครราชสีมา ควบคุมเส้นทางคมนาคมการค้ากับสองฝั่งโขงและทะเลสาบเขมร
                       ผลของการสร้างราชอาณาจักรสยามแผ่ไปควบคุมเส้นทางการค้าทางบก-ทะเลกว้างขวาง ทำให้เกิดสงครามกับหงสาวดี-อังวะ

แผนที่แสดงชุมชนบ้านเมืองและรัฐบางแห่งที่สำคัญ หลัง พ.ศ. 2,000 หรือ ราว 500(+) ปีมาแล้ว ใน(สยาม)ประเทศไทย